โดย แชมป์ตั้นส์
โครงสร้างของ รถบรรทุก จะประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆคือ หัวเก๋ง แชสซี และตัวถัง ถ้าเราพูดถึงตัวถัง ก็คือ ส่วนหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานของรถบรรทุก หัวเก๋งเปรียบเสมือนหัวใจที่ทำให้รถบรรทุกทำงานได้ แชสซีเปรียบเสมือนกระดูกที่ทำให้รถบรรทุกเคลื่อนไหวได้ ในขนะที่ตัวถังเปรียบเสมอร่างกายที่คอยบรรจุสินค้าต่าง ๆ ไว้ด้านในตัวรถ
ตัวถังรถบรรทุก มักจะอยู่ส่วนท้ายของรถบรรทุกที่ใช้ในการบรรจุสินค้าประเภทต่าง ๆ สำหรับการขนย้าย เป็นเกราะป้องกันที่ทำหน้าที่ปกป้องสินค้าจากสภาพอากาศภายนอก ช่วยให้สินค้าคงสภาพสมบูรณ์จนถึงปลายทาง และยังเพิ่มความสวยงามให้กับรถบรรทุกอีกด้วย โดยตัวถังมักจะถูกประกอบขึ้นทีหลังในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ตามลักษณะของสินค้า และความเหมาะสมของธุรกิจ ตัวถังสามารถขึ้นรูปได้หลายรูปแบบและประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของรถบรรทุก รวมถึงประเภทของสินค้าที่จะขนส่ง โดยส่วนใหญ่จะทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถรับน้ำหนักได้ดี เช่น เหล็ก หรืออลูมิเนียม เป็นต้น
การบรรทุกสินค้า
ตัวถังเป็นที่เก็บสินค้าเพื่อการขนส่ง สามารถต่อขึ้นมาให้เหมาะสมกับประเภทของ สินค้าต่างๆ ตั้งแต่สินค้ามีน้ำหนักมากอย่างหินดินทราย สินค้าพืชผลการเกษตร ไปจนถึงสินค้ามีน้ำหนักเบา อย่างจดหมาย หรือพัสดุ เป็นต้น
ป้องกันสินค้าจากสภาพแวดล้อมต่างๆบนท้องถนน
เนื่องจากการขนส่งด้วยรถบรรทุกมักจะเป็นการขนย้ายสินค้าจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ตัวถังจึงต้องออกแบบมาเพื่อให้ทนต่อสภาพแวดล้อมระหว่างการเดินทาง ไม่ว่าจะทางลูกรัง ถนนดินแดง หรือการเดินทางไกลข้ามภาค ตัวถังจึงต้องมีคุณสมบัติเฉาพ เช่นความแข็งแรงทนต่อแรงกระแทกจากหินดินทรายระหว่างทาง หรือป้องกันจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ เป็นต้น
การโหลดและขนถ่ายสินค้า
สินค้าบางประเภทอาจจะต้องการ การเคลื่อนย้าย ถ่ายโอน สินค้า แบบเฉพาะ เพื่อความรวดเร็วในกรขนส่ง เช่น หินดินทราย มักจะใช้รถประเภท รถดั๊มพ์ที่มาพร้อม ตัวถังที่มีความสามารถในการยกสูง เพื่อเทสินค้าลงมาจากรถบรรทุกได้อย่างง่ายดาย เป็นต้น
เมื่อเราเข้าใจหน้าที่หลักของตัวถังรถบรรทุกแล้ว ก็จะเห็นว่า ตัวถังสามารถต่อขึ้นมาได้หลากหลายรูปแบบ ตามสินค้าที่บรรจุ เพราะฉะนั้น เราจึงสามารถแบ่งประเภทของตัวถังรถบรรทุกได้ตามสินค้าที่บรรทุกได้ 6 ประเภทดังนี้
1. ตัวถังแบบเปิด (Flatbed Truck)
เป็นตัวถังที่ไม่มีแผงข้างกั้นด้านข้างหรือด้านหลัง นิยมใช้ขนส่งสินค้าที่ไม่ได้ต้องการการป้องกันเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับขนส่งวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่นเหล็กเส้น ไม้ หรือตอม่อขนาดใหญ่ เป็นต้น
2. ตัวถังแบบปิด (Box Truck / Box Body)
เป็นตัวถังที่จะมีผนังกั้นสินค้ารอบด้าน เพื่อป้องกันสินค้าจากสภาพอากาศ และการขโมยสินค้า มักใช้ในการขนส่งสินค้าทั่วๆ ไป ที่ต้องการการป้องกันแบบมิดชิดเป็นพิเศษ มักจะไม่ได้มีน้ำหนักมาก สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย เช่นสินค้าบริโภค หรือเสื้อผ้า เป็นต้น
3. ตัวถังแบบกึ่งเปิด (Curtain Side Truck)
เป็นตัวถังที่มีแผงข้างและแผงข้างหลัง ติดบานพับไว้สำหรับให้เปิดปิดได้ เพื่อให้ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายถ่ายสินค้า ส่วนใหญ่จะติดขอเกี่ยวผ้าใบ สำหรับคลุมผ้าใบไว้ กรณีบรรจุสินค้าที่ไม่สามารถเจอสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ มักจะใช้กับสินค้าที่ต้องการการป้องกันเล็กน้อย แต่เน้นการถ่ายสินค้าที่สะดวกสบายมากขึ้น
4. ตัวถังดั๊มพ์ (Dump Truck)
เป็นตัวถังที่มีแผงข้างและแผงข้างหลัง มีจุดเด่นหลักที่ทำให้รถประเภทนี้แตกต่างจากรถบรรทุกประเภทอื่นคือ การดััม / การดัมพ์ (Dump) หรือการยกเทตัวถัง ด้วยระบบไฮโดรลิค เพื่อเทสินค้าที่บรรทุกอยู่ ลงจากตัวถัง ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย มักใช้สำหรับการบรรทุกสินค้า ประเภทการก่อสร้าง เช่น หินดินทราย ที่ไม่ได้ต้องการการป้องกันสินค้ามาก สามารถยกเทลงได้ เพื่อให้รวดเร็วต่อการถ่ายสินค้า
5.ตัวถังแบบตู้แช่ (Refrigerated Truck / Reefer Truck)
เป็นตัวถังที่จะมีผนังกั้นสินค้ารอบด้าน ติดตั้งระบบทำความเย็นภายใน ใช้สำหรับ การขนส่งสินค้าที่ต้องการรักษาอุณหภูมิ เช่น อาหารสด ยา เป็นต้น
จะตอบคำถามนี้ได้ ต้องรู้ก่อนว่า สินค้าที่จะใช้บรรทุกคืออะไร ขนาดสินค้าเท่าไร มีน้ำหนักมากไหม ต้องการการปกป้องมากแค่ไหน สามารถถ่ายเท ขนย้ายได้ด้วยวิธีไหน หากเรารู้ข้อมูลเหล่านี้แล้ว เราจึงจะสามารถเลือก รูปแบบลักษณะตัวถัง รวมไปถึงวัสดุที่จะใช้ในการประกอบตัวถัง ที่เหมาะสมกับสินค้าที่เราจะขนส่งได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวถังแบบปิด ตัวถังแบบเปิด ตัวถังดั๊มพ์ หากคุณตอบคำถามนี้ได้ เท่านี้จะเลือกตัวถังแบบไหน ก็เป็นเรื่องง่าย ๆ ได้แล้วครับ
หากคุณตัดสินใจได้แล้วว่า ตัวถังของคุณ ควรจะเป็นแบบไหน แล้วกำลังมองหา ชิ้นส่วนต่อตัวถังคุณภาพดี ผลิตจากเหล็กกล้าคุณภาพ ไว้วางใจกับสินค้าของแชมป์ตั้นส์ได้ การันตีด้วยมาตรฐานการผลิต และประสบการณ์การผลิตกว่า 40 ปี
